ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? ฉีดอย่างไรให้สวย เนียน ไม่เป็นก้อน!เคยเห็นคนฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วออกมาสวยเป๊ะ ดูเนียนเป็นธรรมชาติ จนแทบไม่รู้เลยว่าไปฉีดมา? แต่บางคนกลับบวมเป็นก้อนนูนขึ้นมาจนน่าตกใจ จนทำให้หลาย ๆ คนสงสัยว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? แล้วทำไมบางคนฉีดออกมาแล้วถึงเป็นก้อน?
จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหนึ่งในหัตถการที่มีความปลอดภัยมาก ถ้าเลือกประเภทฟิลเลอร์ที่ถูกต้อง และฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ แต่ถ้าฉีดพลาด หรือเลือกฟิลเลอร์ผิดประเภท อาจเสี่ยงเป็นก้อน หรือทำให้หน้าดูแปลกไปได้!
วันนี้เราจะมา ไขข้อสงสัยว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม? แล้วฉีดยังไงให้ใต้ตาดูสวย เนียน ไม่เป็นก้อน?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?คำตอบคือ "ไม่อันตราย" ถ้าทำถูกต้อง จริง ๆ แล้วการฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตราย แต่ก็มีความเสี่ยงที่อาจเกิดผลข้างเคียงหลังการฉีดได้ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะอันตรายก็ต่อเมื่อ…
1. ใช้ฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ไม่ได้มาตรฐาน → เสี่ยงอักเสบ ติดเชื้อ หรือไหลผิดรูป
2. ฉีดผิดชั้นผิว หรือฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสม → ทำให้ใต้ตาบวม หรือดูเป็นก้อนนูนขึ้นมา
3. ฉีดโดยหมอกระเป๋า หรือแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐาน → เสี่ยงเกิด Vascular Occlusion (ฟิลเลอร์อุดตันเส้นเลือด) ซึ่งอันตรายมาก ๆ
แต่ถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่าน อย. และฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะปลอดภัย เห็นผลลัพธ์ และชัดเจนที่สุด!
ทำไมบางคนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน?
ความจริงคือ ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ดูเป็นก้อนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ได้แปลว่าฟิลเลอร์ไม่ดีเสมอไป!
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าการที่ฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน เป็นเพราะฟิลเลอร์คุณภาพไม่ดีหรือเปล่า? แต่จริง ๆ แล้ว ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อนนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวฟิลเลอร์อย่างเดียวเท่านั้น
1. ใช้ฟิลเลอร์ผิดประเภท
ตัวฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดใต้ตานั้นมีหลายรุ่น หลายระดับความยืดหยุ่น ฟิลเลอร์บางตัวเหมาะกับการเติมเต็มร่องลึก ฟิลเลอร์บางตัวเหมาะกับใต้ตาชั้นตื้น ถ้าใช้ผิดรุ่น ก็อาจจะทำให้เป็นก้อนหรือเกิดผลค้างเคียงได้
2. ฉีดปริมาณที่มากเกินไป
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่ควรฉีดเยอะเกินไปในครั้งเดียว บางคนต้องการให้ใต้ตาฟูขึ้นมาก ๆ แต่การฉีดมากเกินไปในครั้งแรก อาจทำให้ดูบวม หรือเป็นก้อนได้
3. ฉีดผิดชั้นผิว
ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องฉีดในชั้นที่เหมาะสม ถ้าฉีดตื้นเกินไป อาจเห็นเป็นก้อนใต้ผิว หรือ ถ้าฉีดลึกเกินไป อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
4. เทคนิคของแพทย์ที่ฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้เทคนิคละเอียดมาก ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ อาจทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน หรือกระจายตัวไม่ดี
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังไงไม่ให้เป็นก้อน?
1. เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใต้ตา เช่น
- Juvederm Volite / Voluma – เนื้อละเอียด ให้ความชุ่มชื้นสูง
- Restylane Vital / LYFT – ยืดหยุ่นดี ไม่เป็นก้อน
- Belotero Balance / Soft – ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด กระจายตัวดี
2. ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ แพทย์ต้องมีเทคนิคเฉพาะสำหรับใต้ตา ไม่ใช่แค่ใครก็ฉีดได้!
- แพทย์ต้องเลือก จุดฉีดให้เหมาะสม
- ต้องคำนวณปริมาณที่พอดี ไม่มากเกินไป
- ใช้เทคนิคที่ทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวดี ไม่เป็นก้อน
3. ฉีดทีละน้อย แล้วค่อยเติม การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ควรรีบฉีดเยอะในครั้งเดียว!
- ควรฉีดทีละน้อย แล้วรอดูผลประมาณ 2-3 สัปดาห์ก่อนเติมเพิ่ม
- วิธีนี้ช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัว และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
4. ดูแลตัวเองหลังฉีดให้ถูกต้อง หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรดูแลตัวเองให้ดี เพื่อลดความเสี่ยงของอาการบวม หรือการเกิดก้อนใต้ผิว
- งดนวด กด หรือถูบริเวณใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน หรือ แสงแดดจัด ๆ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ 48 ชม.
ถ้าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้วเป็นก้อน ทำยังไงดี?ฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนนูนขึ้นมา ต้องทำยังไงดี? หลาย ๆ คนอาจเริ่มกังวล กลัวว่าหน้าจะดูไม่เป็นธรรมชาติ หรือแก้ไขไม่ได้ แต่ไม่ต้องตกใจ! เพราะฟิลเลอร์สามารถแก้ไขได้
ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็น Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารเติมเต็มที่สามารถ สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย และหากฉีดไปแล้วเกิดปัญหา ไม่พอใจผลลัพธ์ หรือเป็นก้อน สามารถใช้เอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyalase)เพื่อ ช่วยสลายฟิลเลอร์ใต้ตาได้อย่างปลอดภัย ทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้เหมือนเดิม
การฉีด
ฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ถ้าฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะสม แต่ถ้าฉีดผิดพลาด หรือใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงเกิดปัญหาใต้ตาบวม หรือเป็นก้อนได้
ถ้าอยากให้ฟิลเลอร์ใต้ตาดูเนียน ไม่เป็นก้อน ต้อง…
- เลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะกับใต้ตา
- ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง
- ฉีดทีละน้อย ค่อย ๆ เติม ไม่รีบร้อน
- ดูแลตัวเองหลังฉีดให้ถูกต้อง